รีวิว (Review)
- ชื่อเรื่อง : สกายโร้ด เกมโลกเสมือนพลิกชะตาเทพเกม (天行)
- ประเภท : นิยายจีนแปลไทย แนวเกมออนไลน์ อีสปอร์ต
- ผู้แต่ง : 失落叶
- ผู้แปล : ซินเย่ว์, เสี่ยวอิงเอ๋อร์
- จำนวนตอน : 1626 ตอน (แปลจบแล้ว)
- ผู้ถือลิขสิทธิ์ในไทย : BS Media Enterprise
- อุดหนุนได้ที่ : คลิก
เรื่องย่อ
ผู้เล่นอัจฉริยะที่รู้จักกันในนาม “เทพยุทธ์ดาวเหนือ” ได้คิดค้นกลยุทธ์ “กระจายม้าศึก” บุกพิชิตเอาชนะเป่ยหมิงเสวี่ยมือธนูอันดับหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ของประเทศ ทำให้เขาถูกยกย่องเป็นอัศวินอันดับหนึ่งในการต่อสู้ของศึกเทียนจ้ง
ทว่า...กลับโดนคนชั่วใช้วิธีสกปรกจนต้องออกจากสโมสรหยินหูที่อยู่มานมนาน....
เขา...จะอยู่อย่างคนตกต่ำ....หรือจะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ?
ช่างเหมาะเจาะเสียจริงที่ “สกายโร้ด” เกมส์ที่สี่แห่งเยว่เหิงกรุ๊ปได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว โลกเสมือนจริงที่วุ่นวายกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในครั้งนี้เทพยุทธดาวเหนือจะสามารถพลิกชะตาของเขาได้หรือไม่.....
รีวิว
คิดว่าที่ผ่านมา ผู้อ่านส่วนใหญ่คงจะคุ้นเคยกับนิยายแปลจีนกัน เฉพาะแนวเทพเซียน หรือไม่ก็รักจีนโบราณ ยุค 70, 80, 90 หรือนิยายจีนแปลไทยอิงประวัติศาสตร์จากนักเขียนชื่อดังหลายๆ ท่าน รวมไปถึงนิยายกำลังภายในแบบจอมยุทธ์ดั้งเดิม
หลายคนเห็นชื่อบทความก็พอจะเดาได้คร่าวๆ กันแล้วว่า วันนี้ ผมคงไม่ได้มารีวิวนิยายแนวที่กล่าวไปข้างต้นแต่อย่างใด ทว่าวันนี้ ผมมารีวิวนิยายจีนแปลไทยแนวเกมออนไลน์ ซึ่งนิยายแนวนี้เคยฮิตระเบิดระเบ้อในบ้านเราอยู่ช่วงหนึ่ง อันมีกระแสมาจากนิยายจีนแปลไทยแนวเกมชื่อดังอย่าง “ราชาแห่งราชัน” ซึ่งตัวผมเองก็ติดงอมแงมไม่ต่างจากคนอื่นๆ จนนักเขียนไทยหลายๆ คนได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายเรื่องนี้ ทำให้เกิดนิยายไทยสายเกมออนไลน์ดังๆ ตามมาอีกหลายเรื่อง
สกายโร้ดมีบุรุษหนุ่มนาม “ติงมู่เฉิน” เป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่อง โดยมีมุมมองการบรรยายในลักษณะบุรุษที่หนึ่ง แม้การบรรยายในรูปแบบนี้จะมีข้อจำกัดเรื่องมุมมองของการบรรยายค่อนข้างน้อย แต่คนเขียนก็ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้บางสถานการณ์มันจะดูขัดๆ กับการบรรยายลักษณะมุมมองที่หนึ่งอยู่หน่อยๆ แต่ก็พอให้อภัยได้ แต่ในความคิดส่วนตัว ผมว่าถ้าผู้เขียนบรรยายในลักษณะของบุรุษที่ 3 จะเข้ากับนิยายเรื่องนี้มากกว่า เพราะตัวละครมันเยอะเอามากๆ อีกอย่างก็คือ ในบางเหตุการณ์ ติงมู่เฉินตีอยู่กับตัวละครอื่นๆ แต่ก็ต้องไปคอยสังเกตตัวละครที่เด่นๆ อื่นๆ ด้วย ด้วยเหตุที่ว่า หากติงมู่เฉินไม่มองดู เราก็จะไม่มีทางรับรู้สถานการณ์นอกเหนือจากนั้นได้เลย นี่จึงทำให้มันดูติดๆ ขัดๆ บ้างนิดหน่อย
ในการดำเนินเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดีเลย (อันนี้ผมยกนิ้วให้) เหตุการณ์ต่างๆ เดินไปอย่างมีลำดับ ไม่ลัดไปลัดมา ศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวกับเกมเองก็มีไม่มาก ทำให้แม้แต่คนที่ไม่เคยเล่มเกมก็พอทำความเข้าใจได้แบบไม่ลำบาก ตัวละครมีมิติ มีจุดดีจุดด้อย ไม่ค่อยมีตัวละครแบบ “อิหยังวะ” โผล่ออกมาให้หงุดหงิดเท่าไหร่ ทักษะในเกมก็มีที่ไปที่มา ดูเป็นระบบดี ไอเทมก็แบ่งระดับชัดเจน อ่านไปไม่งง
แม้ว่าจะเป็นนิยายเกมออนไลน์ที่ดูเหมือนจะเหมาะสำหรับเด็ก แต่เชื่อผมว่าผู้ใหญ่ก็อ่านสนุก เพราะสังคมในเกมนี้ จะเป็นลักษณะการแข่งขันกีฬา ทั้งแบบเดี่ยวและทีม คือถ้าใครได้ติดตามข่าวทางกีฬาหรือเกมออนไลน์ ก็จะพอคุ้นเคยกับคำว่าอีสปอร์ตอยู่บ้าง ซึ่งนิยายเรื่องนี้ เขาก็จะมาเน้นสังคมการแข่งขันตรงนี้ด้วย ทำให้เราลุ้นตามทั้งในแง่ของเนื้อหาภายในเกม และการแข่งขันในรูปแบบกีฬาไปในตัวด้วย
นอกจากเนื้อหาการต่อสู้ภายในเกมที่เข้มข้น เนื้อหาการแข่งขันอีสปอร์ตที่ดุเดือด ในนิยายเรื่องนี้ ยังสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับนักแข่งขันอีสปอร์ตที่ถือว่าเป็นกีฬาสายใหม่ให้เรารับรู้อีกด้วย ว่าเขามีแนวคิดยังไง ทำงานกันแบบไหน มีความมั่นคงในอาชีพหรือเปล่า ผมว่าเนื้อหาในลักษณะนี้แหละ ที่มันแตกต่างจากนิยายเกมออนไลน์ในตลาดบ้านเรา ซึ่งจะเน้นไปในทางเนื้อหาภายในเกม เน้นทำเควส ตีมอนสเตอร์ ตะลุยเควสลับ แล้วก็ออกทะเล เปลี่ยนให้โลกเกมกลายเป็นมิติอะไรก็ไม่รู้ จนเล่นเอาเรางงว่า “เฮ้ย! ไหนว่าแนวเกมออนไลน์ฟะ!?” แต่นิยายอย่างสกายโร้ด แม้ว่าเนื้อหาจะชวนให้สงสัยว่า มันเป็นอีกมิติหนึ่งหรือเปล่าเนี่ย แต่โปรดมั่นใจได้เลย ว่านั่นเป็นแค่การดำเนินเนื้อเรื่องหลักของเกม ไม่ใช่มิตงมิติอะไรทั้งสิ้นเลย
นิยายเรื่องนี้จะเป็นนิยายจีนยุคปัจจุบันกึ่งๆ อณาคต ไม่ได้มีย้อนอดีตเหมือนนิยายที่เราชินตากัน ดังนั้นเมื่อเราอ่านไปๆ ก็อาจจะมีการแฝงอะไรที่เกี่ยวกับชาตนิยมเข้ามาบ้าง มีแนวคิดแบบอวยจีนนิดๆ แซวชาติอื่นหน่อยๆ (ถูกแซวหนักสุดคงจะเป็นอินเดีย ที่เขาไม่ชอบหน้ากันมานาน) แต่มีไม่มาก และไม่น่าเกลียดจนทำให้เราไม่อยากอ่าน เพราะคนเขียนมีทัศนคติที่ค่อนข้างดีและเป็นกลาง (ขนาดประเทศตัวเองยังแซว) ดังนั้นพอเราอ่านไปเจออะไรแบบนี้ เลยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเท่าไหร่
นิยายเรื่องนี้คล้ายจะฮาเร็ม แต่จริงๆ ไม่ฮาเร็มนะครับ ทุกความสัมพันธ์ เขามีคำอธิบายไว้โดยตลอด ดังนั้นถูกใจคนที่ไม่ชอบฮาเร็มแน่นอน
สำหรับนิยายเรื่องนี้ ในภาพรวม ผมว่าน่าอ่านครับ เนื้อหาไม่หนัก อ่านสนุกในเวลาผ่อนคลายได้สบาย มีอะไรให้ลุ้นตามนิดๆ หน่อยๆ ความสัมพันธ์ตัวละครทำออกมาได้ดี ฉากต่อสู้ก็ถือว่าใช้ได้ จุดชมวิวในเรื่องก็มีให้เราอบอุ่นใจอยู่เรื่อยๆ ใครที่ชอบเนื้อหาเรื่อยๆ ไม่แน่นมาก ไม่หนักหน่วงมาก ให้อารมณ์คล้ายจิบชายามบ่าย ก็แวะไปอ่านกันได้เลยครับ
หลังจากอ่านรีวิวจบแล้ว ผมก็ขอฝากเว็บไซต์อ่านเขียนนิยายของผมเอง เอาไว้ในตัวเลือกของทุกๆ คนด้วยนะครับ ลงได้ทั้งนิยายแต่งและนิยายแปล โดยได้รับส่วนแบ่งถึง 80% ส่วนเว็บไซต์คิดค่าฝากขายเพียง 20% เท่านั้นครับ
ผมทำเว็บนิยายเพราะความชอบ ไม่ค่อยได้คิดเรื่องกำไรสักเท่าไหร่ ใครสนใจก็แวะไปเยี่ยมเยือนกันได้ที่ เขียนกันดอทคอม เว็บนิยายออนไลน์ กันนะครับ